ทักษะภาษาอังกฤษกลายเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก สำหรับนักศึกษาไทยในยุคปัจจุบัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ประกาศนโยบายยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยไทย เพื่อให้มีความพร้อมในการทำงานในระดับสากล โดยมุ่งเน้นให้การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักศึกษาทุกระดับเป็นไปตามมาตรฐานสากล CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) ซึ่งเป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในการประเมินทักษะภาษา

นโยบาย CEFR กับการศึกษาไทย: การยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของนักศึกษา

นโยบายนี้ของ อว. มีเป้าหมายในการ ยกระดับทักษะภาษาอังกฤษของนักศึกษาทุกคนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล CEFR เพื่อให้สามารถทำงานได้ในระดับนานาชาติ โดยนโยบายนี้ระบุว่าทุกมหาวิทยาลัยควรพิจารณาและดำเนินการจัดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR และบันทึกผลการสอบนั้นลงในใบรับรองผลการศึกษา หรือออกเป็นประกาศนียบัตรเพื่อแสดงถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษของนักศึกษา

นโยบายนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 และทาง อว. ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 เพื่อให้ทุกมหาวิทยาลัยนำไปปฏิบัติ

ระดับ CEFR ที่มหาวิทยาลัยไทยควรตั้งเป้าหมาย

การประกาศนโยบายดังกล่าวได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักศึกษาแต่ละระดับ โดยอิงตามมาตรฐาน CEFR ดังนี้:

  1. ระดับอนุปริญญา:
    • ควรกำหนดเป้าหมายอยู่ที่ CEFR B1 ขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับที่สามารถใช้ภาษาในสถานการณ์ทั่วไปได้ดี และสื่อสารในเรื่องคุ้นเคยได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น การสนทนาเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน การสื่อสารในสถานที่ทำงานพื้นฐาน
  2. ระดับปริญญาตรี:
    • เป้าหมายที่แนะนำคือ CEFR B2 ขึ้นไป นักศึกษาที่อยู่ในระดับนี้ควรสามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจในหัวข้อที่หลากหลาย เข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การเข้าร่วมการอภิปรายในชั้นเรียน การนำเสนอโปรเจคงาน หรือการเขียนรายงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
  3. ระดับบัณฑิตศึกษา:
    • ควรกำหนดเป้าหมายที่ CEFR C1 ขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในบริบทที่ท้าทาย และสามารถเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนได้อย่างดี การมีทักษะในระดับนี้ช่วยให้บัณฑิตสามารถวิจัยหรือทำงานในระดับนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การกำหนดมาตรฐานภาษาอังกฤษตาม CEFR เป็นการแสดงถึง ความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะมีความชัดเจนในการวางแผนการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษา ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่านักศึกษาจะมีความสามารถทางภาษาที่เหมาะสมและพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต

  • ช่วยให้นักศึกษามีมาตรฐานเดียวกัน: การนำมาตรฐาน CEFR มาใช้ช่วยให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ สามารถวัดผลทักษะภาษาอังกฤษของนักศึกษาได้อย่างเป็นระบบ นักศึกษาจะมีความเข้าใจถึงระดับทักษะของตนเองและสามารถตั้งเป้าหมายในการพัฒนาได้อย่างชัดเจน
  • เพิ่มโอกาสในการทำงานระดับสากล: เมื่อได้รับการฝึกฝนตามมาตรฐาน CEFR นักศึกษาจะมีทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดงานระดับสากล และมีความพร้อมในการทำงานในองค์กรที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ
  • ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน: อาจารย์และผู้สอนจะมีแนวทางในการสอนที่ชัดเจน สามารถปรับหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนรู้ให้ตรงกับระดับของนักศึกษา และส่งเสริมให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

CEFR ช่วยนักศึกษาในการเตรียมพร้อมสู่ตลาดงานอย่างไร?

ความสำคัญของ CEFR ในบริบทการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยไทย

  1. ความมั่นใจในการสื่อสาร: นักศึกษาที่ผ่านการเรียนรู้และทดสอบตามมาตรฐาน CEFR จะมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการสัมภาษณ์งานหรือการทำงานในองค์กรต่าง ๆ
  2. การทำงานร่วมกับทีมงานต่างชาติ: ในยุคที่การทำงานข้ามชาติเป็นเรื่องปกติ การมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีช่วยให้นักศึกษาสามารถทำงานร่วมกับทีมงานจากหลายประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. การต่อยอดความรู้: นักศึกษาที่มีทักษะภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลและการเรียนรู้ที่มีอยู่มากมายในภาษาอังกฤษ เช่น งานวิจัย หนังสือ หรือคอร์สออนไลน์ ที่ช่วยเสริมความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน

ความท้าทายของมหาวิทยาลัยไทยในการปรับตัวตามนโยบาย CEFR

แม้ว่าการนำมาตรฐาน CEFR มาปรับใช้ในระบบการศึกษาเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็มีความท้าทายที่มหาวิทยาลัยไทยต้องเผชิญ เช่น การปรับหลักสูตรการสอนให้สอดคล้องกับมาตรฐาน CEFR การพัฒนาอาจารย์ให้สามารถสอนตามมาตรฐานนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดหาทรัพยากรการเรียนรู้ที่เพียงพอสำหรับนักศึกษา

อีกประเด็นหนึ่งคือ การสร้างความตระหนักรู้ให้กับนักศึกษา เกี่ยวกับความสำคัญของการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการฝึกฝนและพัฒนาทักษะ

การเตรียมตัวเพื่อพัฒนาทักษะตามมาตรฐาน CEFR สำหรับนักศึกษา

สำหรับนักศึกษาที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR ควรเริ่มต้นจากการประเมินระดับทักษะของตนเอง จากนั้นกำหนดเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ และจัดแผนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของตนเอง การฝึกฝนและทบทวนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้

  • การฝึกทักษะในชีวิตประจำวัน: ลองฝึกฝนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เช่น การอ่านบทความ การฟังพอดแคสต์ หรือการพูดกับเพื่อนในหัวข้อที่หลากหลาย
  • เข้าร่วมคอร์สเรียนหรือคลาสเรียนที่มีมาตรฐาน: หากต้องการพัฒนาทักษะอย่างเป็นระบบ การเข้าร่วมคอร์สเรียนที่มีมาตรฐาน CEFR จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและสามารถประเมินระดับทักษะของตนเองได้อย่างแม่นยำ

CEFR กับอนาคตของการศึกษามหาวิทยาลัยไทย

การปรับนโยบายของ อว. ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน CEFR เป็นการยกระดับการศึกษาภาษาอังกฤษของนักศึกษาไทย และทำให้นักศึกษามีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษตามมาตรฐาน CEFR จะช่วยให้มหาวิทยาลัยไทยสร้างบัณฑิตที่มีความสามารถในการสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับนักศึกษาและผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้สอดคล้องกับมาตรฐาน CEFR การเลือกแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณก้าวข้ามความท้าทายและเติบโตในสายอาชีพอย่างมั่นใจ และหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือ EnglishX ที่นำเสนอบทเรียนและการฝึกฝนทักษะที่สอดคล้องกับมาตรฐาน CEFR ช่วยให้คุณพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้ของตนเอง